ผู้ว่าฯกทม.จ่อปรับปรุงพยากรณ์ฝุ่น เผย PM 2.5 พุ่งถึง 2 ก.พ.

ผู้ว่าฯกทม.จ่อปรับปรุงพยากรณ์ฝุ่น เผย PM 2.5 พุ่งถึง 2 ก.พ.

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่มีความรุนแรงขึ้น เมื่อเวลา 12.25 น. วันที่ 31 มกราคม ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า

นายชัชชาติกล่าวว่า สองวันมานี้สถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 มีความรุนแรงขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศปิด มีการเผาชีวมวลด้านนอก ที่ผ่านมา กทม.ไม่ได้นิ่งนอนใจ ตลอดระยะเวลา 3 เดือน ที่ผ่านมา ทางกทม.มีการตรวจต้นตอฝุ่น ซึ่งได้ตรวจสถานประกอบการจำนวน 4,028 แห่ง สั่งปิด 7 แห่ง แพลนท์ปูน 522 แห่ง ปรับปรุง 16 แห่ง ไซต์งานก่อสร้างที่ขึ้นตรงกับสำนักการโยธา 399 แห่ง ส่วนที่ขึ้นตรงกับสำนักงานเขต 773 แห่ง ปิดให้ปรับปรุง 26 แห่ง ท่าทราย ถมดิน 67 แห่ง ตรวจรถควันดำ 60,000 คัน ห้ามใช้ 1,245 คัน ตรวจรถโดยสารประจำทาง 9,269 คัน ห้ามใช้ 43 คัน ตรวจรถบรรทุก 31,072 คัน ห้ามใช้ 135 คัน

นายชัชชาติกล่าวว่า กทม.จะมีการปรับปรุงการพยากรณ์ฝุ่นให้แม่นยำมากขึ้น โดยเชิญผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่น Air BKK ให้ปรับปรุงการพยากรณ์ฝุ่น พร้อมกับประสานงานกับจังหวัดต่างๆ รวมถึงต่างประเทศ เพื่อคาดการณ์การเผาชีวมวล

“วันนี้ และ 1-2 กุมภาพันธ์ ยังมีสภาพอากาศปิดอยู่ หลังจากวันที่ 3-4 กุมภาพันธ์ สถานการณ์น่าจะดีขึ้น เพราะลมเปลี่ยนทิศจากลมทิศใต้พัดขึ้นมา พาอากาศคุณภาพดีจากทะเลขึ้นมา คิดว่าสถานการณ์น่าจะบรรเทาลง และใน 2 วันนี้เป็นช่วงที่ต้องระวังนิดนึง” นายชัชชาติกล่าว

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์

นายชัชชาติกล่าวต่อว่า กทม.ได้ขอความร่วมมือบริษัทเอกชนให้ทำงานที่บ้าน หรือเวิร์กฟรอมโฮม เพื่อลดกิจกรรมการเดินทาง โดยปัจจุบันมีบริษัทเอกชนให้ความร่วมมือแล้ว 33 แห่ง รวมถึงสำนักอนามัย ได้แจกหน้ากากอนามัยให้กลุ่มเปราะบาง 1 ล้านชิ้น เปิดคลินิกฝุ่นใน 5 โรงพยาบาล ตรวจแหล่งกำเนิดฝุ่นตามที่กล่าวไว้ข้างต้น รวมทั้งป้องกันการเผาในพื้นที่กรุงเทพฯ และเขตจังหวัดข้างเคียง แต่ยังไม่ถึงขั้นสั่งปิดโรงเรียน เพราะค่าฝุ่นยังไม่ถึงเกณฑ์ที่จะต้องปิดโรงเรียน

“การขอความร่วมมือเวิร์กฟรอมโฮม เป็นประโยชน์ด้านสุขภาพของคนในบริษัท สุดท้ายอยู่ที่ว่าเขาให้ความร่วมมือหรือไม่ ทางกทม.ไม่มีอำนาจไปบังคับ” นายชัชชาติกล่าว

นายชัชชาติกล่าวต่อว่า สำหรับต้นตอฝุ่นมาจาก 2 แหล่งสำคัญ ได้แก่ การเผาไหม้ของรถยนต์ และการเผาชีวมวล โดย กทม.ควบคุมเข้มงวด หากพบการเผาชีวมวลจะเข้าไปดับทันที แต่หากเผาในต่างจังหวัดและต่างประเทศต้องขอความร่วมมือ ขณะที่เรื่องการเผาไหม้ของรถยนต์ ต้องร่วมมือกันหลายหน่วยงาน เช่น มาตรฐานคุณภาพน้ำมันที่เป็นเรื่องระดับชาติ การเปลี่ยนเป็นรถ ไฟฟ้า หรือรถอีวี กทม.สนับสนุนได้ระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นการวางแผนระยะยาว

ด้านการวิจัยต้องเอาให้ชัดว่า ตัวฝุ่นมาจากองค์ประกอบใดเป็นหลัก มาจากรถยนต์ หรือเผาชีวมวล เชื่อว่ามาจาก 2 ส่วน ยกตัวอย่างเขตหนองจอก เขตมีนบุรี ไม่มีรถยนต์จำนวนมาก แต่ฝุ่นมีปริมาณสูงจากการเผารอบข้าง

สำหรับความเป็นไปได้ที่จะให้ตำรวจหยุดไม่ให้รถบรรทุกเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพฯ ด้านที่ปรึกษารายหนึ่งระบุว่า ต้องให้แน่ใจว่าฝุ่นมาจากรถบรรทุก ไม่เช่นนั้นจะเกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจรุนแรง ไม่คุ้มกับผลที่ได้ การกำหนดมาตรการไม่ให้รถบรรทุกเข้ามา คงต้องให้ตอบโจทย์จริงๆ ซึ่งมีนักสืบฝุ่นคอยวิเคราะห์ พร้อมหารือกับกรมควบคุมมลพิษอย่างต่อเนื่อง

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ reapersrugby.com

แทงบอล

Releated