ใครเคย “กรึ่มๆ” แล้วยังฝืน ยืนกรานหนักแน่นว่า “ไม่เป็นไร ฉันไหว !!” รู้ไหมว่าที่จริงแล้ว

อาการแค่ “กรึ่ม ๆ” ที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์นั้น ส่งผลกระทบต่อร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสายตาและการตัดสินใจมากกว่าที่คิด โดยเฉพาะหากดื่มแล้วฝืนขับขี่..เพราะในความเป็นจริง แม้จะดื่มในปริมาณที่ไม่มาก แค่เบียร์ 1-2 กระป๋อง หรือที่หลายคนเรียกว่า “กรึ่มๆ ” ผู้ดื่มอาจจะมีอาการไม่มาก

แต่นั่นก็เพียงพอแล้วที่อาจนำไปสู่อุบัติเหตุได้ เพราะแอลกอฮอล์ซึ่งมีฤทธิ์เป็นสารกดประสาท เมื่อถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ภายในระยะเวลาไม่นาน ก็จะออกฤทธิ์ส่งผลต่อการทำงานของระบบต่าง ๆ รวมทั้งการทำงานของสมองทั้งในสมองส่วนหน้า ที่ทำหน้าที่ควบคุม ความคิด บุคลิก พฤติกรรม ทำให้ผู้ดื่ม ดูบอล มีความสามารถในการตัดสินใจ หรือ การประมวลผลต่อเรื่องต่าง ๆ ลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งทักษะในด้านการขับขี่ ทำให้ต้องใช้ระยะเบรก และ ระยะการตัดสินใจที่เพิ่มขึ้นเชื่อไหมว่า..? การดื่มเบียร์แค่ 1-2 กระป๋อง มีผลให้สมองสั่งการช้าลง 1 วินาที หากมีอะไรตัดหน้า การที่เราช้าลง 1 วินาที นั้น รถอาจไถลไปไกลถึง 22 เมตร (หากขับมาด้วยความเร็ว 80 กม./ชม.) ทำให้ไม่สามารถตัดสินใจเบรกได้ทันส่วนที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ แอลกอฮอล์ยังออกฤทธิ์ต่อสมองส่วนกลาง

ที่ควบคุมการมองเห็น ทำให้ประสิทธิภาพในการมองเห็นลดลง ผู้ขับขี่อาจเห็นเป็น

ภาพเบลอ ภาพซ้อน เห็นวัตถุผิดขนาด ตัดสินใจช้าและผิดพลาด รวมทั้ง มีความสามารถในการมองเห็นด้านข้างลดลง โดยเฉพาะเมื่อขับขี่มาด้วยความเร็วสูงและจะยิ่งอันตรายมากขึ้น หากแอลกอฮอล์ออกฤทธิ์ไปยังสมองส่วนที่ควบคุมการทรงตัวและเคลื่อนไหว จนอาจทำให้ไม่สามารถบังคับร่างกายรวมถึงรถได้เลย

สสส.หรือ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และ ภาคีเครือข่าย อยากเห็นคนไทยตระหนักถึงอันตรายของแอลกอฮอล์ที่ส่งผลต่อการขับขี่ตั้งแต่แก้วหรือกระป๋องแรก ๆ ที่เริ่มดื่ม จึงได้ทำการสื่อสารผ่านแคมเปญ “ดื่มไม่ขับ กรึ่มๆ ก็ถึงตาย” เพื่อสะท้อนผลกระทบของแอลกอฮอล์ต่อร่างกาย ซึ่งในปีนี้ได้เน้นไปที่ผลกระทบต่อการมองเห็นและการตัดสินใจที่แย่ลง จากการดื่มแล้วขับ ผ่านหนังโฆษณาชุด “กรึ่มๆ ก็ถึงตาย” ด้วยมุ่งหวังให้คนไทยทุกคน #ดื่มไม่ขับ และกลับไปหาคนรักทุกคนที่รออยู่ที่บ้านอย่างปลอดภัยในปีใหม่ปีนี้ชมภาพยนตร์โฆษณาชุด กรึ่ม ๆ ก็ถึงตายถึงแม้มีบางจังหวะที่น่าทำได้ดีกว่านี้ แต่ภาพรวมถือเป็นเกมที่ไม่เลวเลย เป็นคนวางบอลยาวสุดแม่นให้ อัลวาเรซ หลุดเข้าไปเรียกจุดโทษ มีความขยัน ทุ่มเท และถือเป็นผู้เล่นที่แท็กเกิ้ลชนะมากสุดในทีมร่วมกับ ปาเรเดส (4 ครั้ง)

เป็นอีกหนึ่งเกมที่สุดยอดสำหรับ เมสซี่ ทุกการพาบอลของเจ้าตัวดูมีความอันตราย มีอิทธิพลต่อการเล่นเกมรุกของทีมสูงเหมือนเดิม โดยสังหารจุดโทษเป็นขึ้นนำประตู 1-0 อย่างเฉียบขาด ก่อนโชว์สเตปหลอกล่อ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล หลุดเข้าไปแอสซิสต์ให้ อัลวาเรซ กดประตูปิดท้าย ซึ่งจังหวะนี้ถือเป็นไฮไลต์ของเกมเลยทีเดียว

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมใหม่ๆ ได้ที่ reapersrugby.com